หอยทอดขนมครกของกินเล่นแหวกแนวไอเดียเก๋ การเติมแต่งไอเดียลงไปก็สร้างความแปลกใหม่ทำให้เป็นที่สนใจของลูกค้าได้อย่าง ร้านขายหอยทอดขนมครกที่มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครก็สามารถสร้างจุดขายที่ดีได้ การจะทำอาหารอะไรก็แล้วแต่หัวใจสำคัญอันดับต้นๆเลยเราต้องใช้แต่ของดีๆ มีคุณภาพ สดใหม่ ของสดใหม่จะมีความหอมและรสชาติที่ดีกว่าของเก่า ของอาจจะแพงกว่ากันบ้างแต่ถ้าเราเืลือกใช้ของที่สดใหม่มีคุณภาพ ลูกค้าได้ชิมก็จะติดใจแล้วกลับมาฃื้ออีก การขายอาหารไม่ใช่ตีหัวครั้งเดียวแล้วจบกันอย่างหลายๆร้านที่ทำอยู่ในปัจจุบันนี้ในที่สุดก็ต้องปิดตัวลง
วันนี้ขอมาแนะนำอาชีพใหม่แหวกแนวกันครับกับร้านขายหอยทอดขนมครก ด้วยรูปร่างที่แปลกตาพร้อมกลิ่นหอมโชยขณะผัดใหม่ๆเป็นตัวดึงดูดความสนใจของผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาได้อย่างง่ายดายกับจุดขายเด่นของร้านหอยทอดขนมครก
อุปกรณ์เปิดร้านหอยทอดขนมครก
- เตาขนมครก
- เตาไฟ จะใช้เตาแก๊สหรือเตาถ่านก็ได้ ( เตาถ่านจะทำให้กลิ่นหอยทอดขนมครกน่าทานกว่า )
- ช้อนแคะ
- ภาชนะใส่ไข่และใส่แป้ง
- แป้งเท้ายายม่อม
- แป้งหมี่
- น้ำส้มสายชู
- เกลือ
- น้ำตาลทราย
- พริกขี้หนูสดเม็ดแดง
- น้ำมันพืช
- ฃอสพริก
- กล่องใส่หอยทอด
- ถุง
- ลูกประคบ ( ไว้ชุบน้ำมัน )
- กาน้ำเทแป้ง
สูตรน้ำจิ้ม
พริกขี้หนูเม็ดแดง น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ ฃอสพริก ใส่เครื่องปั่นชิมให้ได้ 3 รส รส เปรี้ยวนำ หวานตาม ท้ายสุดรสเค็ม จนเป็นที่พอใจแล้วนำไปเคี้ยวให้สุกก็จะได้น้ำจิ้มหอยทอดขนมครก
วิธีการทำหอยทอดขนมครก
ล้างหอยแลงภู่ให้สะอาดให้กลิ่นคาวและเมือกให้หมดแล้วใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำแล้วนำมาลวกให้สุก ตักขึ้นใส่ภาชนะเตรียมไว้
ผสมแป้งหมี่กับแป้งท้าวยายม่อมผสมให้เข้ากันแล้วค่อยๆเทน้ำเย็นลงไปคนให้เข้ากัน กะดูไม่ให้ข้นเกินไปหรือเหลวเกินไป ( เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยหอยทอดขนมครกให้ผสมน้ำจิ้มลงในส่วนผสมแป้งทำให้แป้งมีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น )แล้วใส่ ภาชนะแช่ในที่เย็นๆเพื่อไม่ให้แป้งเสียและช่วยทำให้แป้งทอดหอยทอดขนมครกกรอบเพิ่มขึ้นด้วย
จุดเตาไฟตั้งเตาขนมครกให้ร้อน ใช้ลูกประครบชุบน้ำมันพืชทาลงบนเตาขนมครกทุกหลุม เมือเตาร้อนได้ที่ให้หยอดแป้งลงหลุม หยอดไข่และหอยแมลงภู่ที่เตรียมไว้ พอสุกตักขึ้นใส่จาน
เวลาเสิร์ฟให้ผัดถั่วงอกลองพื้นแล้ววางหอยทอดขนมครกแล้ววางถั่วงอกดิบข้างบน ถ้าลูกค้าทานเลยก็ราดน้ำจิ้มบนหอยทอดได้เลยแต่ถ้าฃื้อกลับก็แยกน้ำจิ้มใส่ถุงต่างหาก กล่องหนึ่งใส่หอยทอดขนมครก 8 ฝา ขายกล่องและ 25 บาท ก็สามารถขายได้แล้วครับ
ก่อนที่จะขายควรทำชิมก่อนจนได้รสชาติที่ถูกใจก่อน การขายอาหารถ้าอร่อยเสียอย่างเดี่ยวลูกค้าก็บอกปากต่อปากไม่นานก็จะทำขายกันไม่ทันทีเดียวครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น